การปรับเปลี่ยนทางสรีรวิทยาของพืชที่ได้รับซุปเปอร์โกลด์ ไคโตพลัส

      อนุพันธ์ของซุปเปอร์โกลด์ ไคโตพลัส ออกฤทธิ์เป็นสารกระตุ้น และควบคุมการเจริญเติบโต ของพืชที่ใช้ได้ผลดีกับพืชทุกชนิด โดยจะกระตุ้นการแตกตา และกระตุ้นระบบรากสามารถแทรกซึมเข้าสู่เซลล์ของพืชได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่นาที ที่เซลล์ได้สัมผัสกับสาร และออกฤทธิ์กระตุ้นการสังเคราะห์ DNA ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและภูมิต้านทานโรคพืช (Hadwinger, 1994) พืชมักจะมีการปรับตัวเองจากการกำจัดทำลายของแมลงและศัตรูพืช เราจึงสังเกตพบว่าต้นไม้ที่ได้รับ ซุปเปอร์โกลด์ ไคโตพลัสไป ประมาณ 2-4 สัปดาห์ จะมีความแข็งแรงของลำต้น กิ่ง และใบมากขึ้น อัตราการถูกทำลายโดยแมลงต่าง ๆ น้อยลง (คุณสมศักดิ์ รายงานจากการใช้ ซุปเปอร์โกลด์ ไคโตพลัส กับสวนทุเรียน , 2538) การใช้สารเคมีอาจช่วยป้องกันกำจัดแมลงและศัตรูได้อย่างรวดเร็วกว่าแต่เมื่อมีการใช้ปราบศัตรูพืชเหล่านี้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะเกิดภาวะดื้อยาขึ้น เนื่องจากศัตรูพืชมีการปรับตัวต่อต้านสารเคมีเหล่านั้น

การควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

         กลไกที่ควบคุมความเป็นไปต่าง ๆ ของการเจริญเติบโต การพัฒนาของเซลล์เนื้อเยื่อ อวัยวะจนเป็นพืชทั้งต้นได้แก่     

     1. ระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมทางเคมี เป็นการสื่อสารทางเคมี (chemical messengers) ซึ่งจะนำเซลล์ต่าง ๆ กรรมของการเจริญเติบโต นั่นคือฮอร์โมนพืช และสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช 

     2.ระบบทางกายภาพหรือแรงจากธรรมชาติ เช่น แสง แรงโน้มถ่วง ฯลฯ สารที่มีผลเป็น PGR ได้แก่สารที่เป็นฮอร์โมนทุกชนิด และ สารอินทรีย์สังเคราะห์อื่น ๆ อีกหลายชนิด โดยจะต้องดูจากสมบัติเฉพาะตัวของสารนั้น ๆ

การเปลี่ยนแปลงของสภาพดินหลังการใช้ซุปเปอร์โกลด์ ไคโตพลัส

     เมื่อใช้ ซุปเปอร์โกลด์ ไคโตพลัส โดยเจือจางและลดลงในที่ดินที่ใช้ในการปลืกพืชนั้น พบว่านอกจากช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการปรับสภาพทางกายภาพของดิน และนิเวศวิทยาภายในที่ปลูกนั้นด้วย
   
     การเปลี่ยนแปลงสภาพดินเกิดจากการที่อนุภาคของ ซุปเปอร์โกลด์ ไคโตซาน จับยึดในเม็ดดินหรือวัสดุปลูก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอุ้มน้ำ ทำให้เนื้อดินนุ่มและร่วนซุย ช่วยให้รากมีการแตกแขนงและแทรกลงไปในเนื้อดินได้ลึกและไกลขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและไม่พบในปุ๋ยเคมีใดๆคือ สารซุปเปอร์โกลด์ ไคโตพลัสนี้ จะช่วยให้สิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อพืชในกลุ่ม Actinomycess มีจำนวนมากขึ้น และช่วยกำจัดการเติบโตหรือทำลายโรคพืชบางชนิดในดินออกไป รวมทั้งกระตุ้นกิจกรรมสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในดินให้ย่อยสลายสารอินทรีย์ และการหมุนเวียนธาตุในดิน เช่น Carbon cycle และ Nitrogen cycle ให้มีอัตรเร็วสูง จึงทำให้ปริมาณธาตุอาหารในรูปที่พืชนำไปใช้ประโยขน์ได้สะสมในดินมากขึ้น รวมทั้งกระบวนการต่างๆ เหล่านี้ เป็นเหตุผลที่ทำให้พืชมีความแข็งแรงและเติบโตได้เร็วกว่าปกติ

ผลิตผลการใช้ซุปเปอร์โกลด์ไคโตพลัสและไบโอพลัส ในนาข้าว

     นี่คือผลผลิตจากใช้ผลิตภัณฑ์สารเสริมประสิทธิภาพพืชซุปเปอร์โกลด์ไคโตพลัส และซุุปเปอร์ไบโอพลัส บริษัทไบเน็ท ยูเนี่ยน โกลด์ ในนาข้าว ของนางมิ่งขวัญ ภามาศ ผู้เป็นแม่ของเจ้าของเว็บเองครับ (อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 1 ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์) แรกๆ แม่ก็ไม่อยากใช้เท่าไหร่เนื่องจากมีความยุ่งยากในการใช้ และอีกอย่างชาวบ้านจะนิยมใช้ปุ๋ยเม็ดซะมากกว่า แต่แม่ก็ยอมใช้ครับเพราะเป็นของฟรี.. หลังจากใช้แล้วผลผลิตที่ได้กับเป็นที่พอใจมากครับ ความแตกต่างที่เกิดขึ้นจากปีก่อนๆ คือต้นข้าวไม่ล้ม แข็งแรง ทำให้เก็บเกี่ยวง่าย ผลผลิตดี ข้าวเมล็ดใหญ่ขึ้น น้ำหนักดี เห็นได้จากปริมาณข้าวที่เพิ่มขึ้นจากเดิม

การเปลี่ยนแปลงทางสัณฐานวิทยาของพืช

     การรเปลี่ยนแปลงทางสัณฐานวิทยาของพืช ที่ผู้ใช้สามารถสังเกตุเห็นได้ชัดเจน หลังการใช้สารละลาย
     1. การเปลี่ยนแปลงในส่วนเนื้อเยื่อใบและดอก จะสังเกตุพบว่าก้านใบมีความแข็งแรงและเหนียวขึ้น ใบใหม่ที่แตกออกมาหลังจากการใช้สารจะมีขนาดที่ใหญ่และหนาขึ้น 30 -50 % ปริมาณดอกเพิ่มขึ้น (ทดลองกับดอกไม้ เช่น มะลิ กุหลาบ ไม้ผล เช่นมะนาว มะม่วง)
     2. การเปลี่ยนแปลงของส่วนลำต้นและกิ่งก้าน พบว่าหลังจากการใช้ประมาณ 2 - 4 ครั้ง ต้นไม้จะมีการแตกพุ่มแขนงใหม่ ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น
     3. การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับระบบราก พบว่าสารละลายดี - วันไคโตพลัส มีผลส่งเสริมระบบราก กระตุ้นให้การเจริญของรากขนอ่อน ช่วยให้รากมีการแตกแขนงเร็วขึ้น จึงมีประโยชน์ต่อการตอน และการปักชำกิ่งพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งการปลูกพืชในน้ำ เช่น พืชประเภทพลูวาสนา เงินไหลมา เนื่องจากความสมบูรณ์ของระบบรากนี้เอง จะมีผลให้พืชทนความแห้งแล้งได้ดี ช่วยยึดเกาะหน้าดิน ลดการเกิด Soil erosion